สวัสดีทุกคนค่ะ เปิดมาโพสต์แรกมาก็ว่าด้วยรีวิวเครื่องเขียนกันเลยแล้วกัน
เหตุมาจากว่าเพื่อนหลายๆคนบอกว่าเราคัดภาษาจีนสวย และก็มีบางคนที่เพิ่งมาเรียนภาษาจีนก็มาขอคำแนะนำว่าคัดยังไงดี เขียนออกมาแล้วมันไม่สวยเลย วันนี้เราเลยมาขอนำเสนอเครื่องเขียนสำหรับคนที่ต้องการจะเขียนตัวอักษรจีนหรือญี่ปุ่นให้ได้สวยมากขึ้น
*โพสต์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน*
ทำความรู้จักตัวอักษรกันสักนิด
ตัวอักษรทั้งจีนและญี่ปุ่นมีความคล้ายคลึงกันมาก เพราะว่าทั้งคู่เป็นภาษาในตระกูลเดียวกัน (ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากจีน) ซึ่งจะสังเกตได้ว่ามีหลายๆคำที่มีทั้งในภาษาจีนและใช้เป็นตัวคันจิของญี่ปุ่น เช่น
- คำว่า 日本 ที่แปลว่าประเทศญี่ปุ่น (เขียนเหมือน อ่านต่าง ความหมายเดียวกัน)
- คำว่า 我 ที่ภาษาจีนแปลว่า ฉัน (สรรพนามบุรุษที่ 1 ใช้แทนตัวผู้พูด) แต่ภาษาญี่ปุ่นจะแปลประมาณว่า เห็นแก่ตัว
ปกติแล้วตัวอักษรพวกนี้เป็นอักษรที่เขียนโดยจะต้องมีน้ำหนักทั้ง 'หนัก' และ 'เบา' (ในจีนเรียกประมาณว่าเป็นหยินกับหยาง) ตัวอักษรนั้นถึงจะออกมาสวยและสมบูรณ์ เพราะฉะนั้น เครื่องเขียนที่จะเอามาใช้นั้น จำเป็นที่จะต้องเป็นเครื่องเขียนที่สามารถลงน้ำหนักหนักและเบาได้
เปิดฉากมหากาพย์รีวิว
เครื่องเขียนที่จะมารีวิวทั้งหมด 6 ชิ้นนี้ เป็นเครื่องเขียนที่เราใช้คัดภาษาจีนอยู่เป็นประจำ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นเครื่องเขียนที่หาได้ในประเทศไทยอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นเพื่อนไม่ต้องกังวลว่าจะต้องสั่งซื้อจากเว็บส่งตรงจากประเทศจีนหรือญี่ปุ่นแต่อย่างใด
ตัวแปลควบคุม: กระดาษที่ใช้ในการรีวิว คือกระดาษ Idea Work ความหนา 80 Grams ส่วนตารางคัดจีนคือเราพิมพ์ออกมาจากคอม
ตัวแปลควบคุม: กระดาษที่ใช้ในการรีวิว คือกระดาษ Idea Work ความหนา 80 Grams ส่วนตารางคัดจีนคือเราพิมพ์ออกมาจากคอม
1. ดินสอไม้
ดินสอไม้เป็นพื้นฐานสำหรับคนที่เริ่มเรียนใหม่ๆเลย การใช้ดินสอจะทำให้สามารถลบเขียนใหม่ได้ง่าย เพราะยังไงก็ต้องมีเขียนผิดเป็นเรื่องปกติ
PRICE (ราคา)
ดินสอไม้จะทำให้เรารู้จักใช้น้ำหนักมือมากขึ้น ต่างจากดินสอกดที่ปลายแหลม การลงน้ำหนักจึงแทบมองไม่เห็นเลย แต่ทั้งนี้ สำหรับแล้วเราค่อนข้างเฉยๆกับการคัดจีนด้วยดินสอเพราะว่าชอบเขียนด้วยปากกามากกว่า แต่ถ้าให้เลือกใช้ระหว่างดินสอไม้ ดินสอกด ดินสอเปลี่ยนไส้ เราก็จะเลือกใช้ดินสอไม้ค่ะ (ไม่รวมดินสอ Draft ที่เป็นดินสอเฉพาะทางใช้ในการเขียนแบบ ถึงแม้ไส้จะเหมือนดินสอไม้แต่เราไม่แนะนำเพราะมันเกิดมาเพื่อเขียนแบบมากกว่าและราคาค่อนข้างสูงค่ะ)
PRICE (ราคา)
- สบายกระเป๋าขั้นสุด ขึ้นอยู่กับว่าอยากใช้ยี่ห้อไหน มีตั้งแต่ลายการ์ตูนน่ารักหวานแหววไปจนถึงแบบปกติเลือกได้ตามใจชอบ ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป ยิ่งเหมามาเป็นโหล ราคาต่อแท่งยิ่งถูก
- ร้านขายเครื่องเขียนทั่วไปส่วนใหญ่ก็มีหมด
- Design - ดินสอไม้ แบบไม่มีอะไรผสม
- ไส้ดินสอ- มีให้เลือกหลากหลาย แต่เราแนะนำความเข้ม HB ถึง 3B (ส่วนตัวเราใช้ 2B อยู่ค่ะ ไว้สอบด้วยเลยซื้อทีเดียว) เพราะว่า ถ้าไส้ความเข้มอ่อนมากๆ เวลาเขียนจะทำให้ส่วนที่เป็นเส้นเบาเห็นไม่ชัด ส่วนไส้ที่เข้มมากๆ (4B+) ไส้จะค่อนข้างเปราะ ถ้าลงน้ำหนักมากไปอาจจะมีผงๆไส้ออกมาทำให้กระดาษดำ แถมถ้าเขียนผิดอาจจะลบออกไม่สะอาดด้วย
PERCEPTION (ใช้แล้วเป็นยังไง)
【SCALE : 😊: เจ๋งสุดยอด ดีสุดลงตัวสุด | 🙂: คือมันดีจริง | 😐: เฉยๆ | 😥: มีข้อติ】
- Overall ตามสไตล์เรา【😐】ซื้อไว้ฝึกหัดคัดจีนก็ไม่เสียหาย
- ความถนัดมือ 【😐】- จาก Design ที่ต่างกัน คิดว่าขึ้นอยู่กับส่วนบุคคล สำหรับเราแล้ว ถือว่ากลางๆ ไม่ได้ถนัดมือเวลาเขียนเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นแบบกลมหรือเหลี่ยมๆ
- ความลื่น 【😐】- จริงๆแล้วขึ้นอยู่กับยี่ห้อของดินสอ ถ้ายี่ห้ออย่าง Staedtler (แท่งสีเงิน) หรือ Quantum (แท่งสีดำ) จะเขียนได้ค่อนข้างลื่นกว่าแท่งอื่นนิดหน่อย
- ความคุ้มค่า 【😊】- ปกติดินสอไม้จะทนทานอยู่แล้ว ถ้าไม่หายไปซะก่อน รับรองว่าเหลาใช้ได้จนหมดแท่งแน่นอนค่ะ
- ความอรรถประโยชน์ 【😊】- ขึ้นชื่อว่าดินสอไม้ เรียกว่าไม่ได้ใช้ได้แค่คัดตัวอักษรแน่ๆ วันไหนอยากจะเลิกคัดอักษร ก็เอาไปสอบหรือขีดเขียนอะไรอย่างอื่นเล่นก็ทำได้ทั้งนั้น
- ตัวอักษรที่ได้ 【😐】- ใช้ได้ แต่ส่วนตัวคิดว่ายังสวยไม่เท่าเขียนด้วยปากกา รู้สึกว่ายังลงน้ำหนักยากกับบางขีด เช่น ขีด 捺 (nà) ทำให้เส้นออกมาไม่เหมือนกับใช้หมึก
FINAL VERDICT - ดินสอไม้
เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ Beginner สายชอบลบ ไม่มั่นใจในการเขียน หรือ คนที่ยังเขียนไม่ค่อยแม่นดินสอไม้จะทำให้เรารู้จักใช้น้ำหนักมือมากขึ้น ต่างจากดินสอกดที่ปลายแหลม การลงน้ำหนักจึงแทบมองไม่เห็นเลย แต่ทั้งนี้ สำหรับแล้วเราค่อนข้างเฉยๆกับการคัดจีนด้วยดินสอเพราะว่าชอบเขียนด้วยปากกามากกว่า แต่ถ้าให้เลือกใช้ระหว่างดินสอไม้ ดินสอกด ดินสอเปลี่ยนไส้ เราก็จะเลือกใช้ดินสอไม้ค่ะ (ไม่รวมดินสอ Draft ที่เป็นดินสอเฉพาะทางใช้ในการเขียนแบบ ถึงแม้ไส้จะเหมือนดินสอไม้แต่เราไม่แนะนำเพราะมันเกิดมาเพื่อเขียนแบบมากกว่าและราคาค่อนข้างสูงค่ะ)
2. ปากกา Pentel Energel Series
หนึ่งปากกาสัญชาติญี่ปุ่นที่หาได้ทั่วไปตามท้องตลาดในเมืองไทย
PRICE (ราคา)
- แบบที่เรามีคือ แบบฝาปิดด้ามละ 50-53** บาท และแบบสปริงกด 45-48** บาท ราคานี้ถือได้ว่าเป็นราคามาตรฐานของปากกาเจลก็ว่าได้ แต่ความดีงามของปากการุ่นนี้คือ หมึกเปลี่ยน เพราะว่าหมึกเปลี่ยนมีราคาเพียงแค่ 22** บาทเท่านั้น ไม่ต้องหมดแล้วทิ้งทั้งด้าม
**ราคาอาจปรับเปลี่ยนไปตามตัวแทนจัดจำหน่าย สภาพเศรษฐกิจ หรือปัจจัยอื่นๆ
- ร้านขายเครื่องเขียนทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า B2S สมใจ OfficeMate มีหมดทั้งปากกาและหมึกเปลี่ยน ซึ่งปกติแล้วเวลาเดินไปในโซนปากกาเจล ปากกา Pentel จะปาไป 1 ใน 4 ของโซนเป็นอย่างน้อย ซึ่งจะกระแทกตามากๆ เรียกว่าเรียงกันเป็นดง Pentel เลยทีเดียว
- Design - ลักษณะเด่นๆของ Pentel Energel คือ ตัวด้ามจะค่อนข้างใหญ่กว่าปากกาทั่วไปเล็กน้อย น้ำหนักสมเหตุสมผลกับรูปทรง 90% ของด้ามทำจากพลาสติก มีหูทำจากโลหะ มี 2 แบบหลักๆ คือ
แบบฝาปิด
แบบสปริงกด
- หัวปากกา - มีตั้งแต่ 0.5 0.7 1.0 เป็นหัวกลม ทำจากโลหะ หากตกพื้นแล้วหัวปากกาถูกกระแทก มีโอกาสที่จะทำให้เขียนแล้วหมึกไหลไม่สม่ำเสมอได้ (ทางทีก็พยายามรักษาไว้ ปากกาไหนๆก็ไม่ควรทำตกแหละเนอะ)
PERCEPTION (ใช้แล้วเป็นยังไง)
【SCALE : 😊: เจ๋งสุดยอด ดีสุดลงตัวสุด | 🙂: คือมันดีจริง | 😐: เฉยๆ | 😥: มีข้อติ】
- Overall ตามสไตล์เรา【🙂】เป็นปากกาคัดจีนพื้นฐานที่ควรมีติดไว้สักด้ามจริงๆ
- ความถนัดมือ 【😐】 - จาก Design ถึงแม้จะใหญ่ไปนิดหน่อยตามความรู้สึกเราแต่ก็เขียนได้โดยสวัสดิภาพ แบบฝาปิดฝาปิดสนิทดี ส่วนตัวจะชอบแบบฝาปิดมากกว่า เพราะว่าตัวปากกาจะยาวกว่าเวลาเอาปลอกไปเสียบไว้ท้ายปากกา ทำให้ตัวหูปากกาจะไม่ลงมาโดนมือเวลาเขียน แต่ถ้าเป็นแบบสปริงกดเวลาบางทีเวลาเขียนมันจะมาโดนมือเรา แต่ถึงอย่างนั้น แปปฝาปิดก็ยังมีจุดที่ทำให้เรารำคาญอยู่บางครั้ง คือเวลาปิดฝาเก็บใส่กระเป๋า บางทีพอเปิดมาจะใช้ เกลียวตรงที่ถอดออกได้สำหรับเปลี่ยนไส้จะชอบคลายออกมา (แค่หลวมๆไม่ถึงกับหลุด) ทำให้ต้องบิดให้แน่นก่อนใช้ในบางครั้ง
ตรงนี้ยาวหน่อย แนะนำให้เพื่อนๆไปลองไปทดลองเขียนกันที่ร้านเครื่องเขียนไปเลย ราคาต่างกันนิดหน่อย ถ้าใครชอบ Design ปากกามีปลอกแบบเรา หรือลองเขียนแล้วรำคาญหูปากกาก็จัดแบบมีปลอก ส่วนใครชอบพกพาง่าย ไม่ต้องกลัวปลอกหาย ลวดลายปากกาสวยๆก็จัดแบบสปริงกดไปซะ - ความลื่น 【🙂】- ค่อนข้างลื่นใช้ได้ ทำให้เขียนเส้นออกมาได้ดี ไม่เปลืองแรง คุมความเร็วของเส้นได้ แต่อาจจะควบคุมน้ำหนักยากนิดหน่อยเพราะปากกาเป็นหัวโลหะ แต่ใช้ไปนานๆก็จะคุมได้โปรมากขึ้น
- คุณภาพและความคุ้มค่าของหมึก【😊】- เรียกว่าทนทาน แบบสปริงกดไม่พังง่ายๆ หมึกใช้ได้จนหมดด้าม ไม่แห้งไปก่อน แถมเปลี่ยนหมึกวนไปได้เรื่อยๆ ด้วยราคาหมึกเปลี่ยนที่ไม่แพงและหาได้ง่าย ขอแค่ซองเขียนว่า Compatible with Energel Series ก็พอแล้ว ไม่ต้องรู้ชื่อรุ่นให้วุ่นวาย บอกเลยว่าชอบตรงนี้มากๆ
- ความอรรถประโยชน์ 【😊】- เรียกว่ามาก เพราะว่ามันก็คือปากกาทั่วๆไปนี่แหละ จะเอาไปใช้จดอย่างอื่นหรือเซ็นเอกสารอะไรก็ได้หมด
- ตัวอักษรที่ได้ 【🙂】- ใช้ได้เลยค่ะ หมึกแห้งค่อนข้างไว แต่จะซึมๆกระจายๆหน่อยๆ ความยากของปากกาแบบนี้ โดยเฉพาะเอา 1.0 มาเขียนตัวเล็กๆ คือการผ่อนน้ำหนักเส้น เพราะว่าถ้าผ่อนมากไป ขีดมันก็จะหายไปเลย ก็จะต้องฝึกกันหน่อย
FINAL VERDICT - Pentel Energel Series
ใครไม่คิดมากและขี้เกียจตามหาปากกาอื่นๆที่ต้องมานั่งเทียวไปทั่วทั้งยุทธภพ แนะนำด้ามนี้เลย ด้ามเดียวอยู่ ส่วนตัวเรามีทั้ง 0.5 0.7 1.0 ค่ะ ถ้างบเยอะ ก็จัดหลายๆด้ามได้ตามใจชอบ ถ้างบน้อยหน่อย ด้ามเดียวแล้วไปเหมาไส้มาก็ได้ ใครจะซื้อก็แนะนำให้ไปลองกันที่ร้านก่อน ส่วนตัวดรีมชอบ 0.7 มากที่สุด รู้สึกว่าเวลาคัดจีนออกมาเส้นจะกำลังพอดีค่ะ3. ปากกา Uniball Signo DX Series
อีกหนึ่งแบรนด์เครื่องเขียนจากญี่ปุ่นในนาม Mitsubishi Pencil ซึ่งเป็นแบรนด์ปากกาเจลที่เราชอบมากที่สุด
PRICE (ราคา)
PRICE (ราคา)
- 45-49** บาท ราคานี้ถือว่าไม่ต่างจาก Pentel Energel Series ที่ผ่านมามากนัก มีหมึกเปลี่ยนเช่นเดียวกับ Pentel Energel ที่คาดว่าราคาไม่น่าแตกต่างกันมาก แต่เราไม่เคยซื้อหมึกเปลี่ยน
**ราคาอาจปรับเปลี่ยนไปตามตัวแทนจัดจำหน่าย สภาพเศรษฐกิจ หรือปัจจัยอื่นๆ
- ร้านขายเครื่องเขียนทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า B2S สมใจ OfficeMate มีทุกที่ โดยเฉพาะปากกาแต่จะไม่เยอะเท่ากับ Pentel และอาจจะมีช่วงสินค้าหมดอยู่บ้าง แต่สิ่งที่หายากของปากการุ่นนี้คือหมึกเปลี่ยนค่ะ ต้องเป็น Retailer สาขาใหญ่ๆ ถึงจะมี (อิงจากที่เราไปเจอมานะ) นอกจากหายากยังไม่พอ Uniball ยังมีปากกาหลายรุ่นมากๆ ทำให้เวลาไปดูหมึกเปลี่ยนต้องจำชื่อรุ่นไปด้วย เช่น Signo DX Series ชื่อรุ่นจะคือ UM-151 และ UM-151(07)S ซึ่งปกติแล้วที่ซองหมึก จะมีเขียนชื่อรุ่นเฉพาะไว้ บางทีเห็นจั่วหัวว่า Signo เหมือนกัน แต่อาจจะคนละรุ่น ซื้อมาใส่ไม่ได้ก็เปลืองเงินฟรีไป ทำให้ต้องระวังมากๆ
- Design - เรียบๆ ดูเป็นมาตรฐาน นี่คืออีกอย่างที่เราชอบ มันดูธรรมดา ไม่หวือหวา ตัวด้ามทำจากพลาสติกใส ขนาดกำลังพอดี ทำให้มองเห็นว่าเหลือหมึกถึงไหนแล้ว หูกับฝาปากกาสั้น
- หัวปากกา - มีตั้งแต่ 0.38 0.5 0.7 1.0 เป็นหัวกลม ทำจากสแตนเลสมีความแข็งแรง แต่หากตกพื้นแล้วหัวปากกาถูกกระแทก มีโอกาสที่จะทำให้เขียนแล้วหมึกไหลไม่สม่ำเสมอได้ (แนะนำให้เก็บที่เดียวกันกะ Pentel จะได้ปลอดภัย)
PERCEPTION (ใช้แล้วเป็นยังไง)
【SCALE : 😊: เจ๋งสุดยอด ดีสุดลงตัวสุด | 🙂: คือมันดีจริง | 😐: เฉยๆ | 😥: มีข้อติ】
- Overall ตามสไตล์เรา【🙂】ชอบเพราะความธรรมดาและหมึก จะชอบมากๆหากหาหมึกเปลี่ยนง่ายกว่านี้
- ความถนัดมือ 【😊】 - สำหรับเราคือพอดีมือมากๆ ไม่มีปัญหาเรื่องเกลียวหลวมและฝาปิดไม่สนิท
- ความลื่น 【🙂】- ลื่นกำลังพอดี ไม่ฝืด หัวยิ่งแหลมจะลื่นน้อยลง เขียนเส้นออกมาได้สวย ค่อนข้างคม แต่อาจจะควบคุมน้ำหนักยากนิดหน่อยเพราะปากกาเป็นหัวโลหะ แต่ใช้ไปนานๆก็จะคุมได้โปรมากขึ้น
- คุณภาพและความคุ้มค่าของหมึก【🙂】- เรียกว่าทนทาน จะมีกร่อนบ้างคือตัวหนังสือสกรีนยี่ห้อ ซึ่งไม่ได้เป็นสาระสำคัญอะไร หมึกใช้ได้จนหมดด้ามอย่างคุ้มค่า (หากหัวปากกาไม่แตกไปซะก่อน) แต่ประเด็นคือหมึกเปลี่ยนมันดันหายากไปหน่อยนี่สิ
- ความอรรถประโยชน์ 【😊】- เรียกว่ามาก เพราะว่ามันก็คือปากกาทั่วๆไปนี่แหละ จะเอาไปใช้จดอย่างอื่นหรือเซ็นเอกสารอะไรก็ได้หมด (เหมือน Pentel อะ)
- ตัวอักษรที่ได้ 【🙂】- ตัวจีนที่ได้ออกมาค่อนข้างคมเพราะหมึกดีมาก ไม่ค่อยดูซึมเหมือน Pentel Energel แห้งไว เส้นสวยใช้ได้ เรามีแค่ 0.5 เลยอาจจะลงน้ำหนักได้ยากในจุดที่ต้องลงน้ำหนักมากหน่อย
FINAL VERDICT - Uniball Signo DX Series
ใครไม่แคร์เรื่องหมึกเปลี่ยน ตัวนี้น่าจัดค่ะ เรียกว่าน้ำหมึกเขาดีมากๆ เรียกว่าเป็นตัวชูโรงเลย รุ่นนี้เป็นปากกาที่เขียนดีเขียนสนุกอีกด้ามนึงจริงๆค่ะ เอาไว้ไปฝึกคัดตัวอักษรจีนกันได้สบายๆ แนะนำมากๆ4. ปากกา Uniball AIR
บอกตามตรงว่าด้ามนี้ซื้อมาเพราะความแอบ Royalty กับ Uniball หน่อยๆ กับความแปลก แปลกยังไงไปดูกันค่ะ
PRICE (ราคา)
PRICE (ราคา)
- 50-52** บาท ราคานี้ถือว่าพอๆกับ Pentel Energel Series เลย แต่ไม่มีหมึกเปลี่ยนค่ะ
**ราคาอาจปรับเปลี่ยนไปตามตัวแทนจัดจำหน่าย สภาพเศรษฐกิจ หรือปัจจัยอื่นๆ
- ร้านขายเครื่องเขียนสาขาใหญ่ตามห้างสรรพสินค้า ตอนที่เราได้มา เราซื้อที่ B2S สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวค่ะ สมใจก็น่าจะมีค่ะ
- Design - สวย ดู Smart ทั้งด้ามทำจากพลาสติกทั้งหมด ขนาดด้ามเท่ากันกับ Pentel Energel
- หัวปากกา - ไม่เหมือนใคร สามารถเขียนน้ำหนักเบาหนักได้ตามใจชอบ เส้นก็จะบางหรือหนาตามที่เราเขียน ส่วนเรื่องความทนทานของหัวปากกา ยังไม่เคยทำตก แต่ทางที่ดีก็อย่าเลยดีกว่า
PERCEPTION (ใช้แล้วเป็นยังไง)
【SCALE : 😊: เจ๋งสุดยอด ดีสุดลงตัวสุด | 🙂: คือมันดีจริง | 😐: เฉยๆ | 😥: มีข้อติ】
- Overall ตามสไตล์เรา【😐】ชอบความแปลกใหม่ แต่โดยรวมเฉยๆ ซื้อก็ได้ไม่ซื้อก็ได้
- ความถนัดมือ 【🙂】 - จับถนัดมือดีค่ะ ถึงแม้ด้ามจะใหญ่ไปนิดหน่อยแต่ไม่มีปัญหาอะไร หูปากกาไม่ลงมาโดนมือ ตรงนี้ถือว่าผ่านค่ะ
- ความลื่น 【🙂】- ลื่นกลางๆค่ะ เพราะว่าหัวปากกาเป็นแบบแปลกใหม่ ถือว่าเวลาเขียนควบคุมได้ไม่ยากมาก
- คุณภาพและความคุ้มค่าของหมึก 【😐】- ไม่ค่อยคุ้มค่ามากนัก ทนทานตามสไตล์ Uni แต่ไม่มีหมึกเปลี่ยน ราคาค่อนข้างแพง
- ความอรรถประโยชน์ 【😐】- เรียกว่ายังคิดไม่ออกว่าจะเอาไปทำอะไรอีกดี จะให้เขียนเป็นปากกาธรรมดาก็ดูจะเส้นใหญ่ไปหน่อยและดูซึมๆ นอกจากคัดตัวอักษร อาจจะได้แค่ลองเอาไปตัดเส้นเวลาวาดรูปดู
- ตัวอักษรที่ได้ 【😐】- ไม่ค่อยคมเท่าไร เพราะหัวปากกาด้วยส่วนหนึ่งและหมึกที่ค่อนข้างจะออกมาเยอะเวลาเขียนครั้งนึง แต่หมึกแห้งไวนะ กันน้ำ ตัวอักษรก็เขียนลงน้ำหนักเบาหนักได้
FINAL VERDICT - Uniball AIR
เรียกว่าขายความแปลกใหม่ค่ะ แต่ไม่ได้เป็นปากกาพื้นฐานที่ควรจะมี ถ้างบไม่เยอะ ยังไงก็ยังแนะนำ Pentel Energel Series กับ Uniball Signo DX มากกว่าค่ะ5. ปากกา Tombow Fudenosuke
มาถึงปากกาที่ใช้สำหรับเขียน Calligraphy โดยเฉพาะกันแล้วค่ะ *ปรบมือ*
PRICE (ราคา)
PRICE (ราคา)
- 75** บาท เรียกว่าเป็นราคาที่แพงระดับหนึ่งเลยทีเดียว
- [Update 19.1.2020 ตอนนี้ราคาลดลงแล้วนะคะเพราะมีตัวแทนจัดจำหน่ายในไทยแล้ว แต่เราจำไม่ได้ว่ากี่บาท]
**ราคาอาจปรับเปลี่ยนไปตามตัวแทนจัดจำหน่าย สภาพเศรษฐกิจ หรือปัจจัยอื่นๆ
- ร้านสยามมาร์เก็ตติ้งที่ Central World หรือสั่ง Online (เราซื้อมาจากที่นี่ ไม่รู้ว่าที่อื่นมีขายอีกไหม ใครพอรู้ช่วยแชร์ใน Comment ได้นะคะ)
- Design - เรียบๆ สไตล์ปากกาตัดเส้น ทั้งด้ามทำจากพลาสติกทั้งหมด ขนาดกำลังพอดีมือ
- หัวปากกา - ที่มีขายมี 3 แบบ คือ แบบ Soft Tip (นุ่มเหมือนพู่กัน) Hard Tip (หัวแข็งขึ้นมาหน่อย เขาว่ากันว่าคุมเส้นได้ง่าย) และ แบบ Twin (มีทั้ง 2 หัวในด้ามเดียว) แต่ด้ามที่เรามี คือแบบ Hard Tip ค่ะ แนะนำว่าปากกาแบบนี้ควรดูแลรักษาหัวปากกาให้ดีและปิดฝาให้แน่นหลังใช้ค่ะ ไม่เช่นนั้นปากกาอาจจะมีโอกาสใช้ไม่ได้เลย
PERCEPTION (ใช้แล้วเป็นยังไง)
【SCALE : 😊: เจ๋งสุดยอด ดีสุดลงตัวสุด | 🙂: คือมันดีจริง | 😐: เฉยๆ | 😥: มีข้อติ】
- Overall ตามสไตล์เรา【🙂】มันดีตามราคา ใครสาย Calligraphy ไปจัดมาเลยค่ะ เสียดายที่หาที่ซื้อยากเหลือเกิน
- ความถนัดมือ 【😊】 - จับถนัดมือมาก ขนาดพอดีมือ
- ความยากในการควบคุม 【🙂】- เส้นที่เขียนคุมได้ค่อนข้างง่ายทุกน้ำหนักและทุกความเร็ว
- คุณภาพและความคุ้มค่าของหมึก 【🙂】- หมึกใช้ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าใช้เขียนมากแค่ไหน แต่อาจจะมีเส้นลางไปบ้างช่วงสะบัดเส้นตอนที่ปากกาหมึกใกล้หมด เรื่องความแข็งแรงหัวปากกาอาจต้องรักษา หากลืมปิดฝาค่อนข้างหายนะ
- ความอรรถประโยชน์ 【😐】- คุ้มมากสำหรับสาย Calligraphy ไม่ค่อยคุ้มสำหรับคนที่ไม่ใช่สายนี้เพราะว่าราคาค่อนข้างแพง คือนอกจากเขียน Calligraphy ก็แทบทำอย่างอื่นไม่ค่อยได้แล้ว (น่าจะพอใช้ตัดเส้นได้)
- ตัวอักษรที่ได้ 【😊】- สวยเท่าที่ปากกาหัวกลมด้ามหนึ่ง(และเรา)จะทำได้จริงๆ ประทับใจค่ะสมกับหน้าที่ Calligraphy pen คือดี มันดีมากกก มีปากกาด้ามนี้กับฝีมือรับรองว่าเขียนตัวอักษรจีนได้สวยแน่นอนค่ะ
FINAL VERDICT - Tombow Fudesuke
สำหรับสาย Calligraphy ทุกภาษาพลาดไม่ได้จริงๆค่ะ เรียกได้ว่าเป็น A-Must สำหรับมือใหม่ จะลองซื้อมาใช้ก็ถือว่าดีค่ะ เพราะว่าควบคุมเส้นได้ไม่ยากมากนัก เวลาลงน้ำหนักทั้งเบาและหนักหมึกเส้นไม่ขาด แต่ถ้าใครงบไม่เยอะมากมาย อาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์มากนัก ถ้ามีฝีมือขึ้นมาประมาณนึงแล้ว เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สามารถเอามาใช้งานเพื่อเขียนอักษรจีนหรือญี่ปุ่นให้สวยงามได้ค่ะ6. ปากกา Zig Kuretake Mangaka Flexible
เป็นปากกาตัดเส้นจากญี่ปุ่นสำหรับสายอาร์ตหรือวาดการ์ตูนค่ะ
PRICE (ราคา)
จบไปแล้วกับมหากาพย์รีวิวเครื่องเขียนสำหรับคัดหรือเขียนภาษาจีน/ญี่ปุ่น ถูกใจอันไหนก็ไปตำกันได้ตามใจชอบและงบประมาณที่มี หวังว่าเพื่อนๆ จะสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการตัดสินใจเลือกเครื่องเขียนที่เหมาะกับการเขียนตัวเองได้นะคะ
PRICE (ราคา)
- น่าจะประมาณ 65-70 บาท เป็นปากกาที่เราซื้อมานานแล้ว ถ้าจำไม่ผิดจะราคาประมาณ Tombow Fudenosuke ต้องขอโทษด้วยค่ะ งือออ 😭😭
- เนื่องจากซื้อมานานแล้ว ถ้าจำไม่ผิดจะได้มาจากร้านสยามมาร์เก็ตติ้ง หรือ MiniMOR ค่ะ เรียกว่าหาได้ค่อนข้างยากเลยทีเดียว
- **Update ค่ะ ล่าสุดเจอที่ B2S ราคา 65 บาทค่ะ
- Design - ดูดี สีดำทั้งด้าม ทำจากพลาสติก ขนาดใหญ่กว่า Tombow Fudenosuke เล็กน้อย ฝาค่อนข้างยาว หูปากกาทำจากโลหะ
- หัวปากกา - ที่มีขายมี 2 แบบ คือ แบบ Fine Tip (นุ่มเหมือนพู่กัน) และ Medium Tip (หัวขนาดใหญ่กว่า) แต่ด้ามที่เรามี คือแบบ Fine Tip ค่ะ แนะนำว่าปากกาแบบนี้ควรดูแลรักษาหัวปากกาให้ดีและปิดฝาให้แน่นหลังใช้ค่ะ ไม่เช่นนั้นปากกาอาจจะมีโอกาสใช้ไม่ได้เลย
PERCEPTION (ใช้แล้วเป็นยังไง)
【SCALE : 😊: เจ๋งสุดยอด ดีสุดลงตัวสุด | 🙂: คือมันดีจริง | 😐: เฉยๆ | 😥: มีข้อติ】
- Overall ตามสไตล์เรา【🙂】เขียนได้สวยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าควบคุมเส้นได้ง่ายกว่า Tombow Fudenosuke แบบ Hard Tip นิดหน่อย
- ความถนัดมือ 【😊】 - จับถนัดมือมาก ขนาดพอดีมือเช่นเดียวกับ Tombow Fudenosuke
- ความยากในการควบคุม 【🙂】- หัวมีลักษณะอ่อนนุ่มคล้ายพู่กัน ควบคุมได้ง่าย เส้นที่เขียนคุมได้ง่ายทุกน้ำหนักและทุกความเร็ว
- คุณภาพและความคุ้มค่าของหมึก 【😊】- หมึกใช้ได้นานหรือไม่นานขึ้นอยู่กับการใช้งาน แต่จากประสบการณ์ ปากกาของ ZIG จะใช้ได้นานเป็นพิเศษกว่ายื่ห้ออื่นๆ ปากกามีความแข็งแรงทนทาน แต่ควรปิดฝาให้แน่นหลังใช้เสมอ
- ความอรรถประโยชน์ 【😐】- ใช้ในการตัดเส้นและเขียน Calligraphy เท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานอื่นๆทั่วไปนัก
- ตัวอักษรที่ได้ 【😊】- สวยพอๆกับ Tombow Fudenosuke เลยค่ะ แต่ด้วยหัวที่นิ่มคล้ายกับพู่กัน ทำให้สะบัดได้ง่ายกว่า การลงน้ำหนักเส้นของตัวอักษรจีนที่มากหรือน้อยจึงสามารถทำได้ง่าย
FINAL VERDICT - Zig Kuretake Mangaka Flexible
สำหรับสาย Calligraphy เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่อาจจะนำมาสะสมไว้ใน Collection ปากกาคัดจีนค่ะ แต่ว่าอาจจะหายาก สำหรับมือใหม่มาลองหัดปากกาค่อนข้างเหมาะ ในความคิดเรานะ เพราะจะทำให้เห็นความชัดของน้ำหนักเส้นได้ง่าย แต่แนะนำว่าควรฝึกปากกาหัวนิ่มควบคู่ไปกับปากกาหัวกลมแบบโลหะด้วย สิ่งที่อาจจะแทนกันได้ก็อาจจะเป็น Tombow Fudesuke แบบ Soft Tip ค่ะจบไปแล้วกับมหากาพย์รีวิวเครื่องเขียนสำหรับคัดหรือเขียนภาษาจีน/ญี่ปุ่น ถูกใจอันไหนก็ไปตำกันได้ตามใจชอบและงบประมาณที่มี หวังว่าเพื่อนๆ จะสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการตัดสินใจเลือกเครื่องเขียนที่เหมาะกับการเขียนตัวเองได้นะคะ
สรุปการรีวิว
เราได้ให้คะแนนตามสไตล์เรากับปากกาตามแต่ละมุมมองออกมาได้ตามนี้ค่ะ
*สัดส่วนคะแนนแต่ละช่องคือการเรียงตามความสำคัญตามความคิดเราเท่านั้น*
*สัดส่วนคะแนนแต่ละช่องคือการเรียงตามความสำคัญตามความคิดเราเท่านั้น*
ทิ้งท้ายก่อนจากกัน
- อยากจะขอเตือนเพื่อนๆที่เพิ่งจะมาเรียนภาษาจีนหรือภาษาญี่ปุ่นว่า การเขียน/คัดจีนหรือญี่ปุ่นให้สวยเป็นแค่ส่วนประกอบอย่างหนึ่งเท่านั้น เขียนตามลำดับขีดตัวอักษรให้ถูกต้องนั้นสำคัญกว่ามาก หากเขียนผิด อาจทำให้ความหมายผิดเพี้ยนไปได้
- การเขียนให้สวยไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เครื่องเขียนเพียงอย่างเดียว เครื่องเขียนเป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้การเขียนสวยขึ้นได้เท่านั้นเอง ที่สำคัญคือการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอค่ะ
- การเรียนภาษาจีนหรือญี่ปุ่นสำคัญมากที่จะเขียน เพราะว่าถ้าไม่เขียน ไปนานๆมิติทางภาษามันจะตันแล้วอาจจะทำให้ต่อยอดได้ยาก
- ลายมือทั้งหมดของเรายังอยู่ในช่วงพัฒนา ยังไงก็ยังสวยสู้เจ้าของภาษาไม่ได้ ส่วนตัวคิดว่าการฝึกฝน คัดบ่อยๆ เป็นเรื่องสำคัญที่ขาดไม่ได้ค่ะ (ตอนนี้เราก็ยังพัฒนาไปพร้อมกับการเรียนภาษาจีนค่ะ)
ปล. ถ้ามีโอกาสได้ใช้ปากกาดีๆ ปากกาแปลกๆ และเขียนพัฒนาไปมากกว่านี้ก็จะมารีวิวภาค 2 นะจ๊ะ
Link สำหรับคนขี้สงสัย
Pentel
Official Site: http://www.pentel.co.th/productOfficial Facebook Page: https://www.facebook.com/pentelthailand/
Uniball
Official Site: http://www.uni-ball.co.th/product/
Official Facebook Page: https://www.facebook.com/uniball.co.th
Official Facebook Page: https://www.facebook.com/uniball.co.th
รีวิวละเอียดมากเลยค่ะ
ReplyDeleteขอบคุณมากค่าาาา
Deleteรีวิวให้ความรู้เรื่องปากกาแบบเรียบง่าย ชัดเจน ที่เหลืออยู่ที่ผู้ซื้อตัดสินใจ ขอบคุณมากครับ
ReplyDeleteยินดีมากค่ะ รู้สึกว่าอยากแชร์ในเรื่องที่เราชอบ หวังว่าสิ่งที่เราแชร์ไปจะมีประโยชน์กับทุกคนค่ะ :D
DeleteSports Betting in 1xBet korean - Legalbet
ReplyDeleteYou are able to septcasino place 1xbet bets with one of the leading bookmakers, such as Bet365, Betway, Betfair, SportBet, or Bwin, and you can find the best kadangpintar online betting